Table of Contents
1. ปกป้องและหลีกเลี่ยงแสงแดด และไม่ซ้ำเติมผิว
เพื่อปกป้องแสงแดดจากUVA และ UVB การปกป้องที่ดี คือ ใส่เสื้อคลุมหรือเสื้อแขนยาว สวมหมวกปีกกว้าง และการทาครีมกันแดดเมื่อต้องออกแดด อาจใช้ร่มเพื่อปกป้องแสงแดดเป็นตัวเสริมด้วย และไม่ควรซ้ำเติมผิวให้ยิ่งเสียและหมองคล้ำไปอีกด้วยการออกไปตากแดดแรงๆ โดยที่ไม่ได้ป้องกันอะไรเลย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วผิวเราสามารถรับมือกับแสงแดดได้ประมาณ20-30นาที โดยปราศจากครีมกันแดด
2. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
เมื่อใช้ครีมกันแดดที่มีSPF50 อาจหมายถึงอยู่กลางแดดได้ประมาณ 50×30= 1500 นาที หรือ 25 ชั่วโมง อาจคลาดเคลื่อนไปได้ตามปัจจัยแวดล้อม เช่น เหงื่อ น้ำ หรือการทำกิจกรรม
******************************************************************************
ตัวอย่างค่าSPF และ%การป้องกันแสง UV
SPF 15 ป้องกันได้93%ของรังสีUVB
SPF 30 ป้องกันได้97%ของรังสีUVB
SPF 50 ป้องกันได้98%ของรังสีUVB
******************************************************************************
ค่า PA เป็นค่าที่มีการจัดอันดับประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA
PA+ คือ มีประสิทธิภาพป้องกันรังสีUVA
PA++ คือ มีประสิทธิภาพป้องกันรังสีUVAสูง
PA+++ คือ มีประสิทธิภาพป้องกันรังสีUVA สูงสุด
******************************************************************************
3. รับประทานอาหาร หรืออาหารเสริมช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย
1.กาแฟ
จากผลวิจัยของสถาบันมะเร็งแห่งชาติOxford Journal พบว่าผู้ที่ดื่มกาแฟ4ถ้วยต่อวันหรือมากกว่า มีโอกาสพัฒนามะเร็งผิวหนัง “เมลาโนมา” น้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟเลย 20% และโพลีฟีนในกาแฟช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งจาก UVB
2.ปลา
โอเมก้า3ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยปกป้องฟื้นฟูผิวคล้ำเสียจากรังสีUV และระงับการเติบโตของเซลล์มะเร็งผิวหนัง
3.ผักใบเขียว
ยิ่งสีเข้มยิ่งลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง เพราะมีแคโรทีนอยด์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแข็งแรงสู้แดด และบำรุงผิวให้กระจ่างใส
4.ผิวเลม่อน
ผิวที่ขูดละเอียด อาจจะเป็นส้มหรือส้มโอก็ได้ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
5.มะเขือเทศ
อุดมไปด้วยไลโคปีน วิตามินAและวิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเสียจากแสงแดด ช่วยปลอบปะโลมผิวคล้ำเสีย อาจนำไปบดละเอียดมาพอกผิวที่ไหม้ได้ ทิ้งไว้15-20นาที ทำ 2-3 ครั้งต่อวันจะดีขึ้น
6.วิตามินซี
ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานีน ปกป้องผิวจากฝ้ากระ ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ขาวกระจ่างใส ฟื้นฟูซ่อมแซมผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7.นมสด
นำนมสดผสมน้ำเปล่า 1:1 และเติมน้ำแข็งลงไป จากนั้นเทลงบนผ้าขนหนูหรือผ้าสะอาด แล้วประคบไปที่รอยแดงจากแดด จะช่วยลดการอักเสบได้
8.โยเกิร์ต
รสธรรมชาติที่มีโปรไบโอติก หากเป็นกรีกโยเกิร์ตจะดีที่สุดเพราะเนื้อจะหนา จะช่วยฟื้นฟูผิวได้โดยทาลงบริเวณที่เป็นรอยแดง ทิ้งไว้5-10นาทีจึงล้างออกอาจสลับกับเจลว่านหางจระเข้ทำซ้ำ3ครั้ง
9.แตงกวา
เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติ เติมน้ำให้ผิว ผลัดความหมองคล้ำออกจากผิว ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
4. งดขัดผิววันออกแดดแรง
ใน2สัปดาห์แรกหลังออกแดดแรงๆมา ให้หลีกเลี่ยงการขัดผิวไปก่อน เพราะในช่วงนี้ผิวถือว่ายังบอบบาง การขัดผิวจะยิ่งซ้ำเติมผิวทำให้ง่ายต่อการคล้ำเสีย หากผิวพร้อมหลังจากขัดผิวควรเลี่ยงแดดไปอีก1-2วัน
5. บำรุงผิวด้วยครีมหรือโลชั่นที่มีวิตามินอีหรือเจลว่านหางจระเข้เป็นส่วนผสม
วิตามินอีจะช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น กระจ่างใส และเจลว่านหางจระเข้ ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ลดการคล้ำเสียของผิว หากใช้บ่ยๆเป็นประจำจะช่วยปรับสีผิวให้เสมอกันได้ ควรทาบำรุงเป็นประจำทุกวัน เพราะเมื่อผิวแห้งเสียแล้ว จะทำให้แสงแดดและมลภาวะไปทำร้ายผิวได้ง่ายๆ
6. ดื่มน้ำเย็น
เมื่อร่างกายเจออากาศร้อนทำให้สูญเสียของเหลวในรูปเหงื่อได้ง่าย สิ่งที่ทำได้เร็วและดีที่สุดคือ การดื่มน้ำเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ ให้ความชุ่มชื่นผิว ผิวไม่แห้งขาดน้ำ
เครดิต : women.sanook / saroop / spiceee.net