สัดส่วนความงามบนใบหน้ามีอะไรบ้าง
- เมื่อเราแบ่งใบหน้าในแนวตั้ง จะต้องเป็นสัดส่วนที่เท่ากันทั้ง5ส่วนโดยวัดจาก ข้างแก้มซ้ายถึงหางคิ้วซ้าย หางคิ้วซ้ายถึงหัวคิ้ว ปีกจมูกซ้ายถึงปีกจมูกขวา หัวคิ้วขวาถึงหางคิ้วขวา หางคิ้วขวาถึงข้างแก้มขวา
- เมื่อเราแบ่งรูปหน้าในแนวนอน จะต้องเป็นสัดส่วนที่เท่ากัน 3 ส่วน โดยวัดจากไรผมถึงคิ้ว คิ้วถึงปลายจมูก และปลายจมูกถึงคาง
- อันนี้ อาจจะเห็นตามsocial เมื่อประมาณปีก่อนกระแสตาม Baido ,Fb และ social network ต่างๆคือ finger trap test จริงๆแล้วตามศาสตร์ความงามเราเรียก เส้นนี้ว่า Ricketts’ E line ค่ะ เป็น line ที่ Robert Rickkets ซึ่งเป็นทันตแพทย์ เป็นผู้คิดค้นขึ้นในปี 1950 เป็นเส้นที่ลากจาก ปลายจมูก ถึงปลายคาง ซึ่งจะบริเวณปาก ควรจะอยู่ในแนวเดียวกับ E line ไม่ยื่นออกหรือ หดเข้าจนเกินไป ซึ่งถ้าจะให้ละเอียดขึ้น เราจะวัดองศาจากปลายจมูก จนถึงปลายคาง ควรอยู่ที่ประมาณ 120-130 องศาค่ะ จึงเป็นการประเมินองค์ประกอบของใบหน้า ของแพทย์ในปัจจุบันนี้ เพื่อ ให้การปรับเปลี่ยน องค์ประกอบของจมูก ปาก คางสมบูรณ์และสัมพันธ์กันมากขึ้น
- S curve หรือ Ogee curve of cheek คือการที่พวงแก้มทั้งด้านข้างและด้านหน้า โค้งเป็นรูปตัว s curve ทำให้แก้มบริเวณ ด้านหน้าและด้านข้างดูมีมิติ ไม่แบน สวยทั้งมุมหน้าตรงและด้าน
- Eye brow คิ้วจะต้องได้รูปโดยที่เส้นแรกลากจากปีกจมูกไปที่หัวตา เส้นที่สองคือจุดโค้งสุดของรูปคิ้ว จะอยู่ตำแหน่งเดียวกับขอบตาดำด้านนอก เส้นสุดท้าย หางคิ้วลากผ่านปีกจมูกผ่านขอบตาด้านนอกค่ะ โดยเวลาเราอายุมากขึ้นรูปคิ้วเปลี่ยนไปจะทำให้ ดูหน้าตาไม่สดชื่น ดูมีอายุกว่าที่ควรจะเป็น
- Reverse triangular เคยสังเกตบ้างหรือไม่คะ ว่าทำไม คนเราเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความสวย ความหน้าตาดี ที่เราเคยมีในอดีต จึงเปลี่ยนไป จนเราอยากนั่ง Time machine ย้อนกลับไปในอดีต สิ่งเหล่านี้อธิบายง่ายๆ ตามรูปทรงเลขาคณิต ดังนี้เลยค่ะ ช่วงเวลาเรายังหนุ่มสาว การสร้างและซ่อมแซมชั้นต่างๆของผิวไม่ว่าจะเป็น ผิวหนัง คอลลาเจน เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน รวมไปถึงความแข็งแรงของชั้นกล้ามเนื้อ เรายังยังดีอยู่ ทำให้ลักษณะ ของรูปหน้าถ้าเอาสามเหลี่ยมมาวางลงไป ก็จะวางลงไปได้พอดี ในลักษณะ สามเหลี่ยมกลับหัว แต่เมื่ออายุมากขึ้น คอลลาเจนหายไป ความแข็งแรงของชั้นต่างๆ ของผิวน้อยลงไป แทนที่ สามเหลี่ยมจะกลับหัวเรากลับวางสามเหลี่ยมที่ไม่กลับหัวลงไปได้พอดี
- Ideal cheek โดยเราลากเส้นจากมุมปากไปหางตา และจากมุมปากไป บริเวณติ่งบริเวณก่อนถึงรูหู โดยจุดสูงสุดของแก้มจะรูปไข่ ในบริเวณเส้นที่ลากสองเส้นค่ะ
แปลกแต่จริงใช่ไหมคะ ที่กฎเกณฑ์ ทางคณิตศาสตร์หลายๆอย่างสามารถนำมาใช้กับการรักษาและดูแลเรื่องความงามได้อย่างน่าอัศจรรย์ เทคโนโลยี ก้อเป็นตัวช่วยให้สัดส่วนของใบหน้าดูสวยขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉีด filler เพื่อ เสริมบริเวณคางให้ได้ สัดส่วน การเติม filler บริเวณแก้ม เพื่อให้ หน้าดูมีมิติ เป็น s curve ที่สวยงาม การ lifting หน้า ด้วยการผสมผสานไม่ว่าจะเป็น bo-tox, filler, thread, lift หรือ LASER เพื่อช่วยในเรื่อง ยกกระชับ ผิวที่หย่อนคล้อยทำให้รูปหน้าเป็นสามเหลี่ยมฐานกว้าง หรือ การ lift ใบหน้าด้วย bo-tox หรือ filler เพื่อช่วยให้แก้มไม่หย่อน ได้รูป หรือ การฉีด bo-tox ยกคิ้วให้ช่วงตากว้างขึ้น ดูอ่อนวัย หรือการทำศัลยกรรมซึ่งต้องคำนึงถึงเรื่องสัดส่วนบนใบหน้ามากๆ ทั้งหมดนี้ เป็นทั้ง ศาสตร์และศิลป์ ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมินค่ะ เพราะนอกจาก องศาที่แม่นยำ และสัดส่วนที่ใช่ แต่หมอมั่นใจว่า เราก็คงต้องการความสวยที่เป็นเอกลักษณ์ และโดดเด่นเฉพาะบุคคลเช่นเดียวกันค่ะ
