Table of Contents
ไหมชนิดไหนยกกระชับดีที่สุด ?
**การยกของไหม
**การเปรียบเทียบ Tensile Strength คือ ความสามารถของไหมในการยกนั่นเองค่ะ
จากรูป ไหม PACL ยกดีสุดค่ะ
ภาพเปรียบเทียบการกระตุ้นคอลลาเจนรอบตัวไหมItaly Thread
ระยะเวลาผ่านไปมีการกระตุ้นคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ความยืดหยุ่นของไหม
เราอย่าลืมว่า ความยืดหยุ่นก็มีส่วนสำคัญเช่นกันเพราะไหมต้องเข้าไปอยู่ในหน้าเรา ซึ่งมีการขยับตลอดเวลา ถ้าไหมมีความแข็งไม่ยืดหยุ่น ก็จะทำให้เรารู้สึกถึงตัวไหม และอาจจะเปราะขาดได้ง่าย โดยที่ PLLA จะมีความเปราะมากกว่า PCL และ PDO ค่ะ
เทคนิคการร้อย
สำคัญไม่น้อยไปกว่าตัวเส้นไหมเลยนะคะ โดยทั่วไปเทคนิคการร้อยของไหมขึ้นกับแพทย์เป็นคนออกแบบว่าจะร้อยจากทิศทางไหน แนวจากไหนไปไหน ให้ไหมไปยึดกับอะไร พวกนี้ขึ้นกับประสบการณ์ของแพทย์ รูปหน้าของคนไข้ และ การตกลงออกแบบรูปหน้าว่าอยากได้ในรูปแบบใด
เราควรร้อยให้ไหมไปอยู่ในชั้นไหนของผิว
การร้อยไหมที่มีเหงี่ยงเกี่ยวผิวควรอยู่ชั้นไหนของผิว
เราควรจะให้ไหมอยู่ในชั้น Superficial Fat เพราะเป็นจุดที่เกิดปัญหาของการหย่อนคล้อย และจะทำยกถึงผิวด้านบนชั้น fat ได้การร้อยตื้นจนเกินไปและร้อยปริมาณมากจะทำให้เกิดการสร้างผังผืด เกิดขึ้นได้
ร้อยแล้วดูหน้าโหนกไม่ธรรมชาติ
ส่วนการร้อยแล้วหน้าโหนกขึ้นดึงหางตา หน้าแปลกผิดรูปดูเป็นสตอเบอรี่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการร้อย และการดึงไหมเช่นกันค่ะ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการร้อยไหม
- เขียวช้ำบวม ซึ่งปัจจุบันน้อยลงมากจากการใช้เข็มปลายทู่
- บวมมากจากการโดนเส้นเลือด ปกติการช้ำและบวมของไหมมักจะมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าบวมมากเป็นข้างเดียว มักจะเกิดจากการที่โดนเส้นเลือดที่ค่อนข้างใหญ่ โดยเทคนิคการร้อยให้ถูกชั้นจะช่วยลดปัญหาโดนเส้นเลือดที่มีขนาดใหญ่ได้
เส้นเลือดขนาดใหญ่บริเวณที่เราร้อยไหม มักจะอยู่ใต้ต่อชั้น SMAS ดังนั้น ถ้าเราร้อยในชั้นที่ถูกต้องจะทำให้ไม่โดนเส้นเลือดขนาดใหญ่ ทำให้โอกาสที่จะบวมมากๆ น้อยลง
- บวมมาก มักบวมข้างเดียว จากการที่ทำให้ท่อน้ำลายของต่อมน้ำลาย parotid ขาดเช่นกันกับข้อ 2 คือขึ้นกับเทคนิคของแพทย์เป็นสำคัญ การร้อยให้ถูกชั้นผิวจะช่วยทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นค่ะ
- ติดเชื้อ อุปกรณ์ในการทำต้องสะอาด และ ผ่านการฆ่าเชื้อ ซึ่งปัญหานี้ถ้าทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐานเรื่องนี้ก็จะช่วยได้ค่ะ
ร้อยไหมต่างจาก ฟิลเลอร์ โบท็อก ulthera hifu ยังไง
ปกติเลย หมอจะแบ่งง่ายๆเป็นสองแบบค่ะ คือ สายเข็ม ฟิลเลอร์ และ สายเครื่อง อยากรู้ว่าแตกต่างกันยังไง
ไปดูวิดีโอนี้กันค่ะ ว่าแต่ละแบบต่างกันยังไง ใครควรทำแบบไหน
หลายคนกลัวเข็ม แค่เห็นเข็มก็เหงื่อแตกแล้วหมอขอแนะนำ ให้มาสายเครื่องเลยค่ะ คือ อัลเทอร่า เทอร์มาจ HIFU MMFU
หลายคนไม่อยากร้อยไหม เพราะกลัวเรื่องของผังผืด จะเป็นผังผืดมั้ย ถ้าร้อยตื้นๆ ร้อยสานๆ กันเยอะๆ มีสิทธิ์ค่ะ ไหมจะสะสมมั้ย ถ้าร้อยแบบละลายไม่สะสมแน่นอนค่ะ หมอมีวิดีโอ เรื่อง 5 ข้อสงสัยเกี่ยวกับการร้อยไหมคะ
สรุป แบบตัดจบ 55555 (แบบนี้ก็ได้หรอ) คือ ถ้าอยากให้ใบหน้าได้คอลลาเจนแบบเยอะๆจริงๆ และเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายเราสร้างคอลลาเจนได้เอง แนะนำให้ทำเครื่องค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทอร์มาจ เพราะเป็นเครื่องมือ ที่เกิดความร้อนใต้ผิวหนังชั้นDermisค่อนข้างมาก จึงทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้เยอะ แต่อัลเทอร่า HIFU MMFU ก็สามารถปล่อยพลังงานลงบนชั้นผิวได้เช่นกันค่ะ แต่จะปล่อยเป็นดอทเล็กๆต่อกันเป็นเส้นค่ะ
ในขณะที่การร้อยไหมในที่นี้หมายถึงไหมที่มีเหงี่ยงมีก้างนะคะ เด่นสุดในเรื่องของการยกเก็บกรอบหน้าให้ชัดค่ะ เพราะจริงๆ การร้อยไหมคือการย้ายแฟตหรือย้ายไขมันนั่นเองค่ะ เวลาที่เราอายุเยอะขึ้นไขมันบางบริเวณหนาขึ้น บางบริเวณบางลงและคล้อยลงแบบนี้ค่ะ
ทีนี้การร้อยไหม เหมือนเป็นการย้ายแฟตที่คล้อยและที่เยอะบางบริเวณไปในบริเวณอื่นนั่นเองค่ะ เลยทำให้กรอบหน้าชัดคมขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นกับเทคนิคการร้อยและการดีไซน์ด้วยเป็นสำคัญนะคะ ว่าจะร้อยแบบไหนให้ไม่โหนกชัด เพราะคนไทยหน้าค่อนข้างมีโหนกแก้มอยู่แล้วค่ะ ดูสวยและปลอดภัยค่ะเพราะใต้ผิวเรา นอกจากไขมันแล้วยังมีทั้งเส้นเลือดและเส้นประสาทอีกด้วยนะคะ
ส่วนการร้อยไหมเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ณ ปัจจุบันมีเพียงไหมแบรนด์เดียวในประเทศไทย ที่ผ่าน อย. ในประเทศไทย และมีผลการวิจัยรองรับว่า เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้นะคะ คือ เดฟฟินิส หรือ collagene Italian thread หรือไหมอิตาลีนั่นเองค่ะ ส่วนใหญ่ไหมในท้องตลาด ไม่ได้มีวิจัยรองรับในเรื่องของการเกิดการสร้างคอลลาเจนรอบไหมค่ะ
รูปการกระตุ้นคอลลาเจนรอบไหมอิตาลี มีการกระตุ้นคอลลาเจนที่เพิ่มมากขึ้น
รูปไหมอิตาลี มีเหงี่ยงและทิศทางของเหงี่ยงแบบพิเศษ
ร้อยไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ผลลัพธ์หลังจากทำร้อยไหม
หลักๆเลยมีสองเรื่องนะคะ คือ….
1. ไหมหน้ายกคือเป็นการใช้เหงี่ยง เกี่ยวบริเวณผิวแล้วดึงขึ้น เพื่อให้ผิวด้านบนของตัวไหมยกขึ้นนั่นเองค่ะ
2. ไหมหน้าแน่น หลักการคือเป็นการร้อยไหมเส้นเล็กๆสานกันหลายๆเส้น เพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวนั่นเองค่ะ
3. ไหมจมูก เป็นการสอดไหมเข้าไป เพื่อที่จะให้สันและ ปลายจมูกดูโด่งขึ้น
โดยผลลัพธ์หลังทำการร้อยไหม จะเห็นได้ชัดเจนในทันที และจะดีขึ้นเรื่อยๆใน 1 เดือน โดยเฉพาะไหมหน้ายกนะคะ แต่ถ้าเป็นไหมหน้าแน่น จะต้องรอประมาณ 1 เดือนค่ะ
ร้อยไหม อันตรายไหม ข้อควรระวังเกี่ยวกับการร้อยไหม
ร้อยไหมปลอดภัยถ้าทำด้วยแพทย์ที่มีเทคนิคถูกต้องค่ะ สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการร้อยไหมถ้าร้อยผิดเทคนิค
เรื่องแรกเลย คือ….
- ช้ำเยอะ บวมเป็นปลาทองจากการร้อยโดนเส้นเลือด
- โดนเส้นประสาท อาจทำให้เกิดอาการหน้าเบี้ยว
- ติดเชื้อ
- ผิวไม่เรียบตะปุ่มตะป่ำจากการร้อยผิดเทคนิค
- บวมจากการโดนท่อน้ำลาย
เพราะฉะนั้นเทคนิคการร้อย แพทย์ผู้ทำการรักษาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ
ระยะเวลาในการทำ ร้อยไหม นานไหม
ปกติการทำการร้อยไหม 1 ครั้งใช้เวลาไม่นานค่ะ โดยทั่วไปประมาณ 10-30 นาทีไม่รวมการทายาชาค่ะ
ร้อยไหม ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่ promotion ร้อยไหม
สำหรับโปรโมชั่นร้อยไหม ของที่ The clover ราคาเบามากค่ะ เริ่มต้นที่ 4 เส้น 7,900 บาท ถ้าหลายๆเส้นก็จะราคาต่อเส้นถูกลง สนใจสอบถามได้ที่คอนแทคด้านล่างเลยนะคะ
ร้อยไหม ทำตรงไหนได้บ้าง
เราสามารถร้อยไหมได้ในหลายบริเวณ เช่น ใบหน้า เหนียง คอ จมูก เนินอก หรือใต้ท้องแขน ต้นขา เพื่อช่วยให้กระชับขึ้นได้ค่ะ
